ข้าพเจ้าไม่ใช่นักวิชาการด้านศาสนา แต่เป็นมุสลิมที่เชื่อมั่นในบทบัญญัติอันงดงามของอิสลามที่ตั้งอยู่บนพื้น ฐานของความยุติธรรม และเห็นว่าจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการศึกษาถึง บทบัญญัติที่แท้จริงของอิสลาม จึงขอสรุปประเด็นสำคัญที่เห็นว่าสามารถเข้าใจได้โดยง่ายมาแบ่งปันกัน
น่าสนใจว่าข้อห้ามเหล่านี้มีบัญญัติไว้อย่างชัดเจนในคำสอนของอิสลาม แต่เป็นสิ่งซึ่งกลุ่มที่เรียกตนเองว่า ISIS ได้ฝ่าฝืนอย่างต่อเนื่องตลอดมาโดยแอบอ้างว่าเป็นคำสอนของอิสลาม อันที่จริงบทบัญญัติข้อแรกในข้อสรุปนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะประกาศได้ ว่าแนวคิดและการกระทำของ ISIS ไม่มีความเป็นอิสลาม (ISIS is not Islamic by all means)
- การทำร้ายและเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ไม่ว่าเขาจะเป็นมุสลิมหรือไม่ใช่มุสลิมเป็นสิ่งที่ต้องห้ามโดยสิ้นเชิงตามบทบัญญัติของอิสลาม
- อิสลามห้ามการสังหารทูต เอกอัครราชทูต และนักการทูต ดังนั้นจึงเป็นเรื่องต้องห้ามในอิสลามที่จะสังหารนักข่าวและบรรดาผู้ให้การ ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
- คำว่า ญิฮาด ในคำสอนของอิสลามเมื่อใช้ในความหมายที่แปลว่าการสู้รบหมายถึงการทำสงคราม เพื่อปกป้องตนเองจากการรุกรานเท่านั้น หากปราศจากสาเหตุอันชอบธรรม ขาดเป้าหมายที่ชอบธรรมและปราศจากกฎเกณฑ์ที่ชอบธรรม ไม่อาจอ้างได้ว่าเป็นการทำสงครามเพื่อป้องกันตนเองหรือการทำญิฮาด
- เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลามที่จะเรียกคนอื่นว่าผู้ปฏิเสธพระเจ้า ยกเว้นว่าคน ๆ นั้นจะประกาศเช่นนั้นด้วยตนเอง
- ในกรณีที่กลุ่มไอซิสเข่นฆ่าชาวคริสเตียนและคนกลุ่มน้อยอื่น ๆ นั้นนักวิชาการอิสลามได้ประกาศชัดเจนว่าเป็นเรื่องต้องห้ามโดยสิ้นเชิงที่จะ ทำร้ายผู้ที่เป็นชาวคริสต์และผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นชาวคัมภีร์ และตามหลักการของอิสลามนั้นกลุ่มชนยาซีดีร (ซึ่งถูกเข่นฆ่าและสังหารหมู่โดยกลุ่มไอซิส) เป็นกลุ่มชนที่เป็นชาวคัมภีร์
- เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลามที่จะบังคับให้ผู้อื่นหันมารับนับถือศาสนาอิสลาม
- เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลามที่จะทำร้ายศพหรือทำให้รูปโฉมของผู้เสียชีวิตบิดเบือนไปจากที่เป็นจริง
- เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลามที่จะอ้างการกระทำอันชั่วร้ายในนามของพระผู้เป็นเจ้า
- เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลามที่จะทำลายหลุมศพของบรรดาศาสดาและหลุมศพของบรรดาสาวกและสหายของท่าน
- การลุกขึ้นต่อสู้กับผู้ปกครองโดยใช้อาวุธถือเป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลาม ยกเว้นมีหลักฐานอันชัดเจนว่าผู้ปกครองนั้นห้ามประชาชนของตนเคารพสักการะต่อ พระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา
- เป็นสิ่งต้องห้ามในบทบัญญัติของอิสลามที่บุคคลใดจะประกาศตนเป็นคอลีฟะห์หรือ เป็นตัวแทนของมุสลิมและจัดตั้งรัฐอิสลามโดยไม่ได้รับฉันทามติจากประชาคม มุสลิมทั้งหมด
- การแสดงความจงรักภักดีต่อประเทศชาติของตนเองในฐานะประชาชนของชาติหนึ่ง ๆ ไม่ใช่สิ่งต้องห้ามในคำสอนของอิสลาม
- เป็นสิ่งต้องห้ามในอิสลามที่ใครคนใดคนหนึ่งจะอ้างอิงส่วนใดส่วนหนึ่งจากอัล กุรอานและจากฮะดิษ(คำสอนของท่านศาสดา)โดยไม่คำนึงถึงบริบทและไม่ได้ศึกษา ความหมายจากภาพรวมทั้งหมดของคำสอนจากทั้งสองแหล่งนี้
@ เสธ น้ำเงิน3
** หนังสือรวมเล่ม แฉ ความลับ ทุกตอนเหมาะสำหรับสะสม หรือของฝากนักรบน้ำหมาก คลิ๊กที่นี่ และที่ร้าน B2S ทุกสาขา หรือขอรับง่ายๆ คลิ๊กที่นี่
“กติกา" คอมเม็นท์โปรดงดคำหยาบ , ป่วน , ภาพ สามารถประสานสอบถามทีมงานรวมเล่มหนังสือ แฉ ความลับ คลิ๊กไปที่ http://www.facebook.com/topsecretthaibook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น